ข้างหลังชีวิต ภาคมัชฌิมวัย ตอน”คนโรงแรม”(11)

พูดถึงระบบการบริหารโรงแรม แกรนด์เดอวิลล์ ยังมีเรื่องที่ควรเขียนถึงอีกประเด็นหนึ่งคือ นอกจากจะใช้ระบบครอบครัวบริหารงานแล้ว นพ.กำพล ตังฑัตสวัสดิ์ พี่ใหญ่ของน้องๆที่ดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ยังเอาระบบงานราชการมาประยุกต์ใช้ด้วย นั่นคือเพราะตอนกลางวันสวมหมวกเป็นหมออยู่ที่ รพ.ตำรวจ ตอนกลางคืนจึงสวมหมวกอีกใบเป็น กรรมการผู้จัดการโรงแรมของครอบครัว เมื่อมาถึงโรงแรมผู้บริหารส่วนใหญ่ก็กลับบ้านเกือบหมดแล้ว นพ.กำพลจึงเขียนบันทึกแบบราชการไปวางไว้ตามโต๊ะทำงานของผู้บริหาร ผมเองมาถึงโรงแรมตอนเช้าจะพบบันทึกของคุณหมอจำนวนวันละไม่น้อยกว่า 3-4 ชิ้น งานชิ้นไหนทำได้หรือมีปัญหาอะไรก็เขียนบันทึกตอบ แล้วนำไปวางที่โต๊ะทำงานของท่าน ผมเองสบายมากเรื่องการเขียนบันโต้ตอบ เพราะเคยรับราชการมาก่อน สงสารแต่บางคนที่ไม่คุ้นเคยกับระบบแบบนี้ก็มีปัญหากับท่าน

ท่านจะมาโรงแรมก็วันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุดของท่านที่ รพ.ตำรวจ แต่มีระบบที่ดีอีกสองสามอย่างที่ควรจะเขียนถึงคือ ท่านจะวางระบบความสำคัญของเอกสารทั้งหมดว่า เอกสารอะไรที่มีความสำคัญระดับไหนของแต่ละฝ่าย แล้วกำนดสีของความสำคัญไว้ที่แฟ้มเอกสาร นัยว่าหากเกิดอุบัติภัยเช่นไฟไหม้ พนักงานจะได้รู้ว่าควรจะเก็บเอกสาร แฟ้มไหนก่อนหลัง อีกเรื่องหนึ่งคือการกำหนดขั้นตอนหากแขกที่มาพักเสียชีวิต ใครควรจะมีหน้าที่อะไร อย่างไร กำหนดแม้กระทั่งการเคลื่อนย้ายศพแขกที่เสียชีวิต มีขั้นตอนอย่างไร ใครจะเป็นผู้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สื่อมวลชน ทุกอย่างมีระเบียบและขั้นตอนโดยละเอียด ผมว่ายากที่จะมีผู้บริหารโรงแรมไหนในประเทศไทยจะกำหนดขั้นตอนเหล่านี้ได้ เรื่องอื่นๆเช่นหากเกิดไฟไหม้ควรจะทำอย่างไร ฯลฯ เป็นต้น ดูๆไปตอนนั้นโรงแรมแกรนด์ เดอ วิลล์ ใกล้จะเป็นหน่วยราชการเข้าไปแล้ว

การประชุมผู้บริหารประจำสัปดาห์ก็จะต้องมีระเบียบวาระการประชุม มีผู้จดบันทึกการประชุม และมีการรับรองรายงานการประชุมในครั้งต่อไป เป็นต้น ผมมักจะถูกกำหนดเป็นผู้จดรายงานการประชุม เพราะท่านพูดว่าภาษาหนังสือของผมใกล้เคียงระบบราชการดี (ฮะแอ้ม ท่านคงไม่รู้ว่าผมเคยรับราชการมาเหมือนกันนะ)

หากจะถามว่าระบบระเบียบที่ นพ.กำพลวางขึ้นนี้ ดีใหม ตอบว่า ดีครับ เพราะผมรับได้ทั้งหมด เว้นแต่คนที่ไม่คุ้นเคยอาจจะลำบากใจหน่อย ผมเองก็ยังอดคิดในบางครั้งไม่ได้ว่า ผมทำงานราชการหรือทำงานโรงแรมกันแน่

เมื่อผมทำงานใกล้จะครบกำหนดสัญญาจ้างงานคือ หนึ่งปี ผมก็ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หลายคนก็แสดงความดีใจต่อตำแหน่งใหม่ของผม แต่ผมกลับเฉยๆครับ เพราะตำแหน่งนี้เกือบจะไม่มีงานอะไรทำเลย นอกจากงานเอกสารซึ่งไม่ใช่ความต้องการของผมในการทำงานโรงแรม

แล้วชีพจรก็ลงเท้าผมอีกครั้ง ท่านคงทราบดีว่าคืออะไร ผมลาออกจากงานทันทีที่ครบสัญญาจ้างงาน ไม่ว่าใครจะทักท้วงอะไรผมไม่ฟังอีกแล้ว เพราะเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายกับงานที่นี่เป็นที่สุด(จริงๆ)

Advertisement

เกี่ยวกับ หนุ่มร้อยปี

ชอบดูหนัง ฟังเพลงเก่า เล่าความหลัง นั่งเล่นเน็ต ถ่ายรูป อ่านหนังสือ
ข้อความนี้ถูกเขียนใน คนโรงแรม คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

ใส่ความเห็น

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s