เมื่อครั้งที่ผมไปเข้าอบรมหลักสูตร”เดอะบอสส์” รุ่นที่ 13 นั้น ผมไปพบกับลูกชายเจ้าของโรงหนังบางแครามา (พ.ศ. 2511) ตอนนั้นยังเป็นเด็กหนุ่มชอบสนุก ขับรถยนต์ BMW 2000 รุ่นล่าสุดสมัยนั้น เที่ยวกลางคืนเกือบทุกคืน เพราะพ่อเป็นเถ้าแก่โรงหนัง ผมเรียกชื่อเล่นเขาว่า “เสี่ยเจียง” วันนี้เขาคือ กำพล แสงเรืองกิจ เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท สินทรัพย์นคร จำกัด มาเข้าอบรมรุ่นที่ 14
หลังจากที่คุยกับแบบคนที่รู้จักและคุ้นเคยกันแล้ว เขาก็บอกผมว่า หากผมมีอะไรที่เขาจะช่วยได้ ให้โทร.ไปคุยกับเขานะ
แล้วก็ถึงเวลานั้นที่เขาบอกไว้ ผมโทรไปหาเขาว่าอยากจะทำงานกับเขาด้วย เขาก็ตกลงด้วยความยินดี สำนักงานของเขาตอนนั้น(พ.ศ. 2535) ตั้งอยู่ที่หน้าหมู่บ้าน สินทรัพย์นคร ถนนพุทธมณฑลสาย2 ผมเข้าทำงานในตำแหน่ง ผู้จัดการฝ่ายบุคคลและธุรการ บริษัทมีพนักงานประจำอยู่ที่สำนักงานประมาณ 30-35 คน แต่มีพนักงานที่อยู่ตามโครงการก่อสร้าง(ไซด์งาน) หลายคน เช่น พนักงานโฟร์แมน พนักงานขายประจำโครงการ เป็นต้น สรุปแล้วมีพนักงานทั้งหมดประมาณ 100 คน
สำหรับผู้บริหารมีดังนี้ คุณกำพล แสงเรืองกิจ เป็นกรรมการผู้จัดการ น้องสาวคนสุดท้องเป็นผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน น้องเขยเป็นผู้จัดการทั่วไป คุณนิรันดร์ (จำนามสกุลไม่ได้) เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดและขาย ผม เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคลและธุรการ และมีวิศวกร(จำชื่อไม่ได้)เป็นผู้จัดการฝ่ายก่อสร้าง
บริษัท สินทรัพย์นคร จำกัด ดูเป็นบริษัทขนาดเล็กแต่มีกิจการค่อนข้างใหญ่ มีโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่สร้างสำเร็จและขายหมดแล้วหลายโครงการ เช่น หมู่บ้านพุดตาล (ซอยเพชรเกษม 81 เข้าตลาดหนองแขม) หมู่บ้านพรรณิการ์ ซอยกาญจนาภิเษก เชื่อมต่อซอยจรัญสนิทวงศ์13) หมู่บ้านจัดสรรที่บางบัวทอง และกำลังขึ้นอีกหลายโครงการ
จุดเด่นของบริษัทคือมีที่ดินอยู่ในมือ(Land Bank) จำนวนหลายแปลง ซื้อมานานแล้วสมัยพ่อเป็นเถ้าแก่โรงหนังบางแครามา ซื้อมาในราคาถูกๆ เมื่อนำมาสร้างเป็นหมู่บ้านจัดสรรจึงมีต้นทุนที่ถูก สามารถขายได้ราคาไม่แพง รูปแบบบ้านสวยและมาตรฐานการก่อสร้างที่ดี จึงทำให้ทุกโครงการขายได้หมดในเวลาไม่นานนัก
คุณกำพล แสงเรืองกิจ มีความประสงค์ที่จะนำบริษัทฯเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพราะภรรยาเป็นผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มานานแล้ว จึงนำบริษัทฯจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน แต่ไม่ทราบว่าติดปัญหาอะไรจึงไม่สามารถนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ (เพราะผมลาออกมาก่อน)
ผมมาทำงานกับคุณกำพลจึงพบว่า พฤติกรรมและวัฒนธรรมการบริหารงานงานแตกต่างกับพ่ออย่างสิ้นเชิง สมัยเถ้าแก่โรงหนังบางแครามานั้น เป็นแบบเถ้าแก่ แต่คุณกำพลเป็นแบบเสี่ยรุ่นใหม่ แต่อย่างไรก็ตามลูกไม้ก็หล่นไม่ไกลต้นตามที่คนโบราณว่าไว้