ภาคมัชฌิมวัยจะจบลงตอนนี้ เพราะตอนนี้ผมอายุ 58 ปีแล้ว คงจะไม่สามารถโลดแล่นไปในยุทธจักรธุรกิจได้มากมายนัก
หลังจากที่ล่มสลายจากการทำนิตยสาร “ชีวิตต้องสู้”แล้ว คุณไพบูลย์และบรรดามิตรสหายทั้งหมด รวมทั้งผมด้วยต่างก็แยกย้ายกันไปตามวิถีชีวิตของแต่ละคน
วันหนึ่งผมก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณไพบูลย์แจ้งว่าจะมีงานใหม่ให้ทำ หากสนใจก็นัดคุยรายละเอียดกัน ตกลงผมก็ไปพบคุณไพบูลย์ตามนัดหมาย จากการคุยกันทราบว่ามีบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ในเครือของคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี กำลังจะขยายกิจการใหม่ ต้องการผู้บริหารที่มีความรู้และประสบการณ์ในเรื่องการบริหารงานทั่วไป คุณไพบูลย์บอกว่าผมนี่แหละตรงตามสเป็คที่เขาต้องการเลย
บริษัทที่กล่าวมาคือ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ มหาธนกิจ จำกัด ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ข้างธนาคารมหานคร สำนักงานใหญ่ สวนมะลิ ผมติดต่อไปตามหมายเลขโทรศัพท์ที่คุณไพบูลย์ให้มา ผู้รับสายคือคุณเสรี (จำนามสกุลไม่ได้) ทำหน้าที่เลขานุการประธานกรรมการบริหาร(CEO) คือ คุณเทพ รุ่งธนาภิรมย์ (อดีตนักเรียนทุนของธนาคารกสิกรไทย รุ่นแรก ที่คุณบัญชา ล่ำซำ ส่งไปเรียนปริญญาโท ที่อเมริกา ในนามของสี่ทหารเสือ กสิกรไทย)
เมื่อผมไปพบครั้งแรกเพื่อรับการสัมภาษณ์ สำนักงานของ บงล.มหาธนกิจ ที่ตั้งอยู่ข้างธนาคารมหานคร นั้น เป็นอาคารพาณิชย์จำนวน 4 ชั้น 5 คูหา ผมไปพบคุณเทพ ชั้นที่ 2 และได้คุยกับคุณเทพประมาณ 20 นาที จากนี้คุณเทพก็บอกว่าจะให้คุณเสรีโทร.ไปแจ้งผล ผมก็นึกว่าคงจะไม่ได้รับการว่าจ้างแน่นอน เหตุผลหลักๆคือ ผมมีอายุมากแล้ว ความรู้ก็ไม่ได้เรียนจบปริญญาโท ประสบการณ์ด้านการบริหารงานทั่วไปก็พื้นๆไม่น่าสนใจอะไร
แต่อะไรๆในโลกนี้มักจะมีสิ่งที่คาดไม่ถึงเสมอ สองวันต่อมาผมได้รับโทรศัพท์จากคุณเสรี แจ้งว่าคุณเทพตกลงจ้างผม ในอัตราเงินเดือนที่ผมเสนอไปคือ เดือนละ 60,000 บาท ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักบริหาร ที่รับผิดชอบดูแลงาน 4 ฝ่ายคือ ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ฝ่ายธุรการและจัดซื้อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และฝ่ายเลขานุการการประชุมคณะกรรมการบริษัท
ผมแทบไม่เชื่อหูตนเองที่ได้รับข่าวดีเช่นนี้ เพราะโอกาสที่คนอายุ 58 ปีจะได้รับการว่าจ้างให้ทำงานในตำแหน่งดีๆแบบนี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว และนี่คือช่วงชีวิตของผมที่ทะยานขึ้นสู่จุดที่สูงสุด หลังจากที่ทำงานมาสารพัดประเภท
ผมเริ่มทำงานต้นเดือนพฤศจิกายน 2538 สถานที่ทำงานคือชั้นสอง นั่งทำงานรวมๆกันสามสี่คน เพราะสถานที่คับแคบ (แต่บริษัทฯมีโครงการที่จะย้ายไปยังสำนักงานใหม่ อาคารยูไนเต็ด เซ็นเตอร์ ถนนสีลม ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2539)