คงจะจำสโลแกนของผมได้นะครับ “ชอบดูหนัง ฟังเพลงเก่า เล่า(เขียน)ความหลัง นั่งเล่นเน็ต” นี่คือชีวิตประจำวันของผมจริงๆ หากไม่มีกิจกรรมตามสโลแกนที่ตั้งไว้นี้ ชีวิตประจำวันของผมคงเหงาแย่เลย เพราะไม่มีกิจกรรมอื่นๆให้ทำ เช่น ไม่มีหลานให้เลี้ยง หากมีก็คงเลี้ยงไม่เป็น ไม่ชอบเลี้ยงสัตว์ทุกชนิด ไม่ชอบปลูกต้นไม้ทุกชนิด ไม่มีก๊วนชวนเล่นหมากรุก หรือชมรมส่องพระเครื่องเหมือนสมัยหนุ่มๆ
ถ้าอย่างนั้นลองมาดูว่ากิจกรรมตามสโลแกนของผม ผมทำกิจกรรมอะไรมากน้อยแค่ไหนในวันหนึ่งๆ “ชอบดูหนัง” ผมจะดูหนังซีรี่ส์ที่ ทีวีช่อง MONO29 ใช้เวลาดูวันละประมาณ 2-3 ชม. “ฟังเพลงเก่า” จะฟังเพลงทั้งลูกกรุงและลูกทุ่ง จากยูทูปและแผ่นซีดี นักร้องลูกทุ่งคนโปรดคือ สมยศ ทัศนพันธ์ ทูล ทองใจ ปอง ปรีดา ก้าน แก้วสุพรรณ ฯลฯ เป็นต้น นักร้องลูกกรุงก็ไม่พ้น สุเทพ วงศ์กำแหง ชรินทร์ นันทนาคร สุนทราภรณ์ ฯลฯ เป็นต้น “เล่า(เขียน)ความหวัง” ส่วนใหญ่จะเขียนเรื่องต่างๆสไตล์ครอบจักรวาลลงตามบล็อกต่างๆที่มีอยู่ประมาณ 10 บล็อก เช่น ที่ http://www.bloggang.com, http://www.wordpress.com, http://www.oknation.net เป็นต้น กิจกรรมสุดท้าย “นั่งเล่นเน็ต” นี้ ผมถือปฏิบัติมานานสิบกว่าปี ตั้งแต่ใช้คอมพิวเตอร์เป็นและรู้จักอินเตอร์เน็ต ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 จะนั่งอยู่หน้าคอมทุกวัน เวลา 08.30-11.30 น. เว้นแต่จะไปต่างจังหวัดบ้าง แต่ก็ใช้แท็บเล็ตและมือถือแทน ส่วนใหญ่จะโพสต์เรื่องต่างๆขึ้น Facebook,Twitter, และอ่านเว็บไซต์ต่างๆ อ่านประจำก็ที่ http://www.pantip.com, http://www.siamphone.com เป็นต้น
“นั่งเล่นเน็ต” บางครั้งก็ใช้แท็บเล็ตและมือถือสมาร์ตโฟนสลับกับการใช้เครื่อง พีซี เป็นการเปลี่ยนอิริยาบถ ปรับเปลี่ยนสายตาบ้าง ในช่วงนี้สายตาเริ่มมีปัญหาพร่ามัว มองอะไรไม่ค่อยชัดเจน กิจกรรมที่ต้องใช้สายตาอาจจะมีปัญหามากขึ้น แต่กิจกรรมที่ใช้หูยังสบายๆไม่มีปัญหา
จะเห็นว่าความสุขของผู้สูงอายุมีเรื่องสัมพันธ์กับอวัยวะต่างๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น ทำให้ผู้สูงอายุบางคนแทบจะไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเลย โดยอ้างว่าหูตาไม่ดีไม่อยากจะทำอะไร แต่อย่างไรก็ตาม ขออย่าให้จิตใจท้อแท้หมดอาลัยตายอยากก็แล้วกัน