“ดูหนัง ดูละคร แล้วย้อนดูตัว”
คำพังเพยโบราณที่ยกมากล่าวข้างต้นนี้ เป็นคำที่สอนคนเราให้ไม่ประมาทในการดำรงชีวิต เราอาจมีความสุข สนุกสนานในการใช้ชีวิตไปด้วยการดูหนัง ดูละคร เที่ยวเตร่สนุกสนานกับญาติสนิทมิตรสหาย
ช่วงเวลาเหล่านั้นต้องหมดไปอย่างแน่นอน เสมือนงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เช่นกัน แล้วเราก็จะกลับมาอยู่กับตัวตนที่แท้จริงของเรา
ตัวตนที่แท้จริงของเราเป็นเช่นไร ต้องพยายามหาให้พบนะครับ เป็นคนที่ยอมรับสภาพเป็นจริงได้ เข้าใจสัจธรรมแห่งชีวิตว่า สิ่งใดเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อมสลาย เป็นไปตามธรรมชาติ
ผมเองทำความเข้าใจกับข้อความที่กล่าวมาข้างต้นนั้นนานมาแล้ว ไม่ว่าชีวิตประจำวันจะดำเนินไปอย่างไร จะมีโรคภัยไข้เจ็บมารบกวนเพียงใด ก็ทำใจดูแลรักษาตนเองไปอย่างดีเท่าที่จะทำได้ ไม่ท้อถอยปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม
ด้านสภาพจิตใจก็ดูแลเช่นเดียวกับกาย ไม่ปล่อยจิตใจให้เหงา ว้าเหว่เดียวดาย หรือซึมเศร้า ด้วยกลยุทธ์สร้างสโลแกนให้ชีวิตคือ “ชอบดูหนัง ฟังเพลงเก่า เล่า(เขียน)ความหลัง นั่งเล่นเน็ต” เพียงเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอกับชีวิตผู้สูงวัยคนหนึ่งแล้ว